หน้าร้อน ปี 1983 … เอลิโอ หนุ่มน้อยวัย 17 ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่บ้านพักตากอากาศในแถบภาคเหนือของอิตาลี่
ในหน้าร้อนของทุกๆ ปี พ่อของเอลิโอจะรับนักศึกษาปริญญาเอกมาพักอยู่ด้วยเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อช่วยจัดการงานเรื่องหนังสือ เรื่องประวัติศาสตร์ศิลป์ … แต่ 6 สัปดาห์ของปีนี้ไม่ธรรมดา เมื่อผู้ช่วยที่มาเป็นแขกของบ้านคือ โอลิเวอร์ หนุ่มหล่อทรงเสน่ห์คนนี้
ในหน้าร้อนของทุกๆ ปี พ่อของเอลิโอจะรับนักศึกษาปริญญาเอกมาพักอยู่ด้วยเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อช่วยจัดการงานเรื่องหนังสือ เรื่องประวัติศาสตร์ศิลป์ … แต่ 6 สัปดาห์ของปีนี้ไม่ธรรมดา เมื่อผู้ช่วยที่มาเป็นแขกของบ้านคือ โอลิเวอร์ หนุ่มหล่อทรงเสน่ห์คนนี้
Call me by your name นั้นเป็นหนัง coming of age ในแบบที่เราไม่รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย (ซึ่งมีอยู่น้อยเรื่องมากๆ ส่วนใหญ่เราจะหงุดหงิดภาวะ ก้าวข้าวผ่าน อะไรต่อมิอะไรของเด็กวัยรุ่นในหนัง) คิดว่าน่าจะเกิดจากการที่ตัวเอลิโอเองนั้นก็ออกจะความมั่นใจในตัวเอง เติบโตมาอย่างได้รับความรักจากพ่อแม่แบบเต็มอิ่ม ออกจะเป็นเด็กหนุ่มที่รอบรู้และรู้ความต้องการของตัวเองเป็นอย่างดีด้วยซ้ำ พอเจอจุดเปลี่ยนที่ต้องก้าวข้ามผ่านเขาเลยไม่คร่ำครวญโวยวาย คือเศร้าก็ยังร้องไห้และในหลายๆ เรื่องก็งี่เง่าไปตามประสา แต่มันคือการเรียนรู้และเติบโตไม่ใช่การคร่ำครวญ ซึ่งดีงามเหลือเกิน
เอาเข้าจริงหนังเรื่องนี้นี่พล็อตแบบ … ประสบการณ์เสียวของผมกับผู้ช่วยของพ่อในช่วงวันหยุดสุดร้อนรุ่ม อะไรแบบนี้ด้วยซ้ำนะคะ 5555 แต่พอเล่าแบบมีรสนิยม ภาพสวย ดนตรีเริ่ด การแสดงดีงาม แล้วมันก็ดูดี High end ขึ้นมาทันที ละเมียดละมุนมีบรรยากาศของตัวหนังสือ บทกวี ดนตรีคลาสสิคคลอทั้งเรื่องให้อิ่มเอมกันไป
ถ้าใครต้องการความ Y แน่นอนว่าเรื่องนี้มาเต็มชวนฟินมาก (ในส่วนของเลิฟซีน ก็มาเต็มเช่นกัน)…. แต่สำหรับเราเราไม่คิดว่านี่คือหนังเกย์แต่อย่างใด เรื่องเพศเป็นเรื่องที่เลื่อนไหลไปได้ตลอดระยะทางของชีวิตจริงๆ ตัวเอลิโอเองก็ยังต้องเติบโตและสำรวจตัวเองในเรื่องนี้อีกยาวไกล รวมถึงคนดูอย่างพวกเราด้วยวันนี้เราอาจมี sex กับผู้หญิงอย่างเดียว พรุ่งนี้มี sex กับผู้ชายได้ วันต่อๆ ไปอาจจะค้นพบว่า อ้อ เรามี sex ได้กับทุกคนที่เรารักโดยไม่เกี่ยวว่าเขาจะเป็นเพศอะไรนี่หว่า มันไหลเลื่อนเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ได้แปลว่าเราต้อง คือ อะไร และไม่ได้แปลว่าเรื่องเหล่านี้ผิดปกติแต่ประการใด
นอกเหนือจากความการเติบโตก้าวข้ามผ่านอะไรหลายๆ อย่างในตัวเอลิโอ ผ่านความสัมพันธ์กับโอลิเวอร์และคนอื่นๆ แล้ว พาร์ทครอบครัวในเรื่องนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เชื่อว่าซีนเอลิโอคุยกับพ่อในตอนท้ายๆ เรื่องจะประทับอยู่ในใจคนดูหลายๆ คนไปอีกนาน
เอาเข้าจริงหนังเรื่องนี้นี่พล็อตแบบ … ประสบการณ์เสียวของผมกับผู้ช่วยของพ่อในช่วงวันหยุดสุดร้อนรุ่ม อะไรแบบนี้ด้วยซ้ำนะคะ 5555 แต่พอเล่าแบบมีรสนิยม ภาพสวย ดนตรีเริ่ด การแสดงดีงาม แล้วมันก็ดูดี High end ขึ้นมาทันที ละเมียดละมุนมีบรรยากาศของตัวหนังสือ บทกวี ดนตรีคลาสสิคคลอทั้งเรื่องให้อิ่มเอมกันไป
ถ้าใครต้องการความ Y แน่นอนว่าเรื่องนี้มาเต็มชวนฟินมาก (ในส่วนของเลิฟซีน ก็มาเต็มเช่นกัน)…. แต่สำหรับเราเราไม่คิดว่านี่คือหนังเกย์แต่อย่างใด เรื่องเพศเป็นเรื่องที่เลื่อนไหลไปได้ตลอดระยะทางของชีวิตจริงๆ ตัวเอลิโอเองก็ยังต้องเติบโตและสำรวจตัวเองในเรื่องนี้อีกยาวไกล รวมถึงคนดูอย่างพวกเราด้วยวันนี้เราอาจมี sex กับผู้หญิงอย่างเดียว พรุ่งนี้มี sex กับผู้ชายได้ วันต่อๆ ไปอาจจะค้นพบว่า อ้อ เรามี sex ได้กับทุกคนที่เรารักโดยไม่เกี่ยวว่าเขาจะเป็นเพศอะไรนี่หว่า มันไหลเลื่อนเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ได้แปลว่าเราต้อง คือ อะไร และไม่ได้แปลว่าเรื่องเหล่านี้ผิดปกติแต่ประการใด
นอกเหนือจากความการเติบโตก้าวข้ามผ่านอะไรหลายๆ อย่างในตัวเอลิโอ ผ่านความสัมพันธ์กับโอลิเวอร์และคนอื่นๆ แล้ว พาร์ทครอบครัวในเรื่องนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เชื่อว่าซีนเอลิโอคุยกับพ่อในตอนท้ายๆ เรื่องจะประทับอยู่ในใจคนดูหลายๆ คนไปอีกนาน
มันเป็นหน้าร้อนที่งดงามระยิบระยับ เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย และพาไปไกลเกินความฟินอยู่หลายมิติ
พ่อของเอลิโอสอนว่า ‘อย่าเร่งลืมความเจ็บปวดเสียใจ จนลืมความสุขไปด้วย’ เราจะจำประโยคนี้ไว้ ถือเป็นการเติบโตในบางจุดเล็กๆ ของใจเราด้วยเช่นกัน
พ่อของเอลิโอสอนว่า ‘อย่าเร่งลืมความเจ็บปวดเสียใจ จนลืมความสุขไปด้วย’ เราจะจำประโยคนี้ไว้ ถือเป็นการเติบโตในบางจุดเล็กๆ ของใจเราด้วยเช่นกัน
